สวรรค์ชั้นดุสิต
สวรรค์ชั้นดุสิต เป็นสวรรค์ที่อยู่ห่างออกไปจากสวรรค์ชั้นยามาขึ้นไปเบื้องบนอีกประมาณ 42,000 โยชน์ เป็นแดนสุขาวดี เป็นที่สถิตอยู่แห่งปวงเทวดาทั้งปวง ผู้ไม่มีความทุกข์ ปราศจากความร้อนใจ มีแต่ความยินดี และมีความแช่มชื่นอยู่เป็นนิตย์ เพราะคำว่า “ดุสิต” แปลว่า “รื่นเริง-ยินดี” อีกทั้งยังเป็นภูมิที่อยู่ของพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย และเป็นที่อยู่ของพุทธบิดา-พุทธมารดาด้วย
ในส่วนของพระโพธิสัตว์นั้น ก่อนที่จะไปบังเกิดในโลกมนุษย์ และบำเพ็ญเพียรจนสำเร็จอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นอกจากนั้น ยังเป็นที่สถิตอยู่ของผู้ที่จะเป็นอัครสาวกก่อนที่จะไปบังเกิดในมนุษยโลกอีกด้วย
ดังนั้น เทวดาที่อยู่ในชั้นดุสิตาภูมินี้ นับว่าเป็นเทวดาที่ประเสริฐกว่าเทวดาในภูมิอื่น ๆ โดยมีท้าวสันดุสิตเทวราชเป็นผู้ปกครองหรือเป็นพระราชาแห่งเทพผู้ปกครองเทวดาทั้งปวงผู้มาบังเกิดในสวรรค์ชั้นนี้
เทียบเวลาระหว่างโลกมนุษย์กับเทวดาในสวรรค์ชั้นดุสิต
400 ปี ในโลกมนุษย์ เท่ากับ 1 วัน ในสวรรค์ชั้นดุสิต
สวรรค์ชั้นดุสิตนั้น เป็นสวรรค์ของเทวดาจำพวกอากาสัฏฐเทวดา คือ เทวดาที่มีวิมานสถิตอยู่บนอากาศ มีเมืองทิพย์ตั้งอยู่บนอากาศ และปราสาทวิมานทิพย์ที่ตั้งอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิตนั้น ก็จะมีลักษณะที่ประณีตงดงามด้วยรัตนะมีค่าต่างๆ เช่น
- รัตนวิมาน คือ วิมานแก้ว
- สุวรรณวิมาน คือ วิมานทอง
- รชตวิมาน คือ วิมานเงิน
บนสวรรค์ชั้นดุสิต หรือ สวรรค์ชั้นที่ 4 นี้ จะมีวิมานและมีปราสาทตั้งอยู่เป็นแบบแปลนแผนผังเรียบร้อยเรียงรายสวยงาม วิมานและปราสาทแต่ละหลังมีความสวยสดงดงามและยิ่งใหญ่วิจิตรอย่างมโหฬารเกินกว่าที่จะคาดคิดได้ นอกจากนั้นแล้ว บริเวณโดยรอบของปราสาทและวิมานอันเป็นทิพย์นั้นก็ยังมีกำแพงแก้วล้อมรอบ ปราสาทและวิมานทิพย์แต่ละแห่งก็จะมีรัศมีเปล่งประกายออกมาสวยสดงดมามกว่าปราสาทและวิมานทิพย์ของเทวดาในสวรรค์ชั้นยามาอย่างมาก
สวรรค์ชั้นดุสิตนี้ ก็จะมีสระโบกขรณีอันมีน้ำเย็นใสสดชื่น มีอุทยานอันเป็นทิพย์สำหรับพักผ่อนหย่อนใจของเหล่าทวยเทพเทวาทั้งหลายอย่างมากมาย
เทวดาในสวรรค์ชั้นดุสิตจัดให้มีการแสดงและฟังธรรมอยู่เสมอ
เทวดาที่มาเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิตได้สร้างกุศลกรรมที่เป็นเหตุให้มาเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ รูปร่างหน้าตา อาภรณ์และเครื่องประดับต่างๆ ของเทวดาในชั้นนี้มีความงดงามกวาเทวดาชั้นยามา มีใจฝักใฝ่ในธรรม มีความปรารถนาจะฟังธรรมเป็นอย่างมาก
ในสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ มีการฟังธรรมในทุกๆ วันพระ โดยเทวดาทั้งหลายจะมาประชุมกันฟังธรรมอยู่เป็นนิตย์ โดยมีท้าวสันดุสิตเทวราชทรงรับหน้าที่เป็นผู้แสดงธรรมให้กับปวงเทวดาในสวรรค์ชั้นนี้ฟัง
ปัจจุบันนี้มีพระโพธิสัตว์สถิตอยู่ในสวรรค์ชั้นนี้ ก็คือพระศรีอริยะเมตไตรยโพธิสัตว์ จะเป็นองค์แสดงธรรมโปรดเหล่าเทวดาในสวรรค์ชั้นดุสิตอยู่เป็นประจำ
บุรพกรรมที่ทำให้ได้มาเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต
ผู้ที่หมั่นสร้างบุญกุศล ชอบการฟังเทศน์ฟังธรรม เพื่อพัฒนาจิตใจให้มีความผ่องใส ให้ได้รับการพัฒนาเพื่อความเจริญยิ่งขึ้นไป ยินดีในการประทำกุศล ไม่หลงมัวเมาในการใช้ชีวิต ด้วยการทำทาน รักษาศีล เจริญจิตภาวนาเป็นนิตย์
พระพุทธองค์ได้ตรัสถึงบุพกรรมที่ทำให้มาเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิตไว้ในทานสูตรว่า
ผู้ใดให้ทานโดยไม่คิดว่าทำตามบิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ที่เคยทำมาจนเป็นประเพณี แต่ให้ทานโดยคิดว่าเราหุงหากิน สมณพราหมณ์เหล่านั้นไม่ได้หุงหากิน ถ้าเราไม่ให้ทาน ก็เป็นสิ่งไม่ควรอย่างยิ่ง เมื่อเขาตายลง ก็ย่อมไปบังเกิดเป็นเทวดาในสวรรค์ชั้นดุสิต”
ความพิเศษของสวรรค์ชั้นดุสิต
- ทำไมพระบรมโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและนักสร้างบารมีทั้งหลายถึงเลือกที่จะอยู่ในสวรรค์ชั้นนี้
- สวรรค์ชั้นดุสิตนี้ มีความกว้างใหญ่ไพศาลมาก มีท้าวสันดุสิต ซึ่งบรรลุเป็นพระโสดาบันแล้ว เป็นผู้ปกครองภพที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดุสิตอยู่สูงขึ้นไปจากยอดเขาสิเนรุราช อยู่ในอากาศเหนือสวรรค์ชั้นยามาขึ้นไป 42,000 โยชน์ บนสวรรค์ชั้นนี้จะไม่มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ทำให้ไม่มีเงา ไม่มีมุมมืดบนสวรรค์ เป็นอยู่ได้ด้วยความสว่างจากวัตถุสิ่งของต่างๆ เช่น กายของเหล่าเทวดา วิมาน สวน สระ สิ่งแวดล้อมต่างๆ มีแต่ความสว่าง จึงไม่ต้องอา ศัยดวงอาทิตย์
- ลักษณะ ของสวรรค์ชั้นดุสิต จะไม่กลมอย่างโลกมนุษย์ แต่จะกลมแบบราบ ถ้ามองจากสวรรค์ชั้นยามาขึ้นไป จะมองเห็นเป็นแสงสว่าง นุ่มเนียนตา และถ้ามองจากสวรรค์ ชั้นดุสิตขึ้นไป ก็จะเห็นแสงสว่างนุ่มเนียนตา ของสวรรค์ชั้นนิมมานรดี หรือถ้ามองลงไปที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ก็จะเห็น ว่ามีขนาดเล็กนิดเดียว เพราะสวรรค์ชั้นดุสิตใหญ่กว่า
- โครงสร้างของสวรรค์ชั้นดุสิต มีวิมานของท้าวสันดุสิตเป็นศูนย์กลาง ของสวรรค์ชั้นนี้ แล้วแบ่งออกเป็น 4 เขต วนรอบวิมานของท้าวสันดุสิตเทพบุตร ดังนี้
- เขตที่ 1 เป็นที่อยู่ของพระอริยเจ้า คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี ซึ่งอยู่ชั้นในสุด
- เขตที่ 2 เป็นที่อยู่ของนิยตโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วว่า จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอน ซึ่งวงบุญพิเศษของผู้ที่มีมโนปณิธานจะรื้อสัตว์ขนสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพานให้หมดจนกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม ก็จะอยู่ในเขตนี้ด้วย
- เขตที่ 3 เป็นที่อยู่ของอนิยตโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ที่ยังไม่ได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังต้องสร้างบารมีอีกมาก
- เขตที่ 4 เป็นที่อยู่ของผู้ที่ทำบุญกุศลมาก และมีกำลังบุญมากพอที่จะได้อยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ต่อไป เป็นเขตทั่วไป นอกเหนือจาก 3 เขตแรก
- สวรรค์ชั้นดุสิตนี้ มีความพิเศษกว่าสวรรค์ชั้นอื่นอยู่หลายประการด้วยกัน หนึ่งในความ พิเศษนั้นก็คือ เป็นที่อยู่ของเหล่าพระบรมโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใน อนาคตจำนวนมาก และเหล่าเทพบุตรที่สร้างบุญบารมีเป็นพระสาวก เพื่อตามพระบรมโพธิสัตว์ลงมาตรัสรู้ในอนาคต แล้วทำไมพระบรมโพธิสัตว์ หรือบัณฑิตทั้งหลายจึงปรารถนาที่จะได้มาบังเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ ทั้งที่กำลังบุญของแต่ละท่านนั้นมากมาย ปรารถนาที่จะไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นใดก็ได้ เหตุที่ท่านเลือกสวรรค์ชั้นนี้ มีข้อสังเกตอย่างน้อย 3 ประการ คือ:-
- พระโพธิสัตว์สามารถจุติลงมาเกิดเป็นมนุษย์ได้ตามใจปรารถนา หมายความว่า โดยปกติแล้วเทวดามีเหตุแห่งการจุติ หลายประการ เช่น หมดบุญก็มี หมดอายุขัยก็มี จุติเพราะความโกรธก็มี แต่เหล่าพระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลาย ในสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ เมื่อจะจุติลงมาสร้างบุญบารมี หรือมาบังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะนั่งทำสมาธิ อธิษฐานจิตสามารถดับวูบลงมาเกิดได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์ของชาวสวรรค์ชั้นอื่นๆ
- เนื่องจากสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ มีแต่บัณฑิต มีแต่พระบรมโพธิสัตว์ ล้วนแต่มีอัธยาศัยคล้ายคลึงกัน ที่จะฝึกฝนตนเองและช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้ถึงฝั่งพระนิพพานไม่ประมาทในการดำรงชีวิต เหมือนชาวสวรรค์ชั้นอื่นๆ มักจะคบหาบัณฑิต พูดคุยสนทนาธรรมกันเพื่อความเบิกบานใจ และหมั่นไปฟังธรรมในวันพระ ซึ่งท่านท้าวสันดุสิตจะเป็นผู้อัญเชิญพระบรมโพธิสัตว์ที่มีบุญบารมีมากมา แสดงธรรมให้ฟัง
- อายุทิพย์ของสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ คือ ๔๐๐๐ ปีทิพย์ ซึ่งไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป พอเหมาะพอดีที่จะเสวยสุข เพราะท่านจะต้องลงมาสร้างบุญบารมีต่อ ถ้ามีอายุขัยนานเกินไปอาจจะทำให้เสียเวลา
จะเห็นได้ว่า สวรรค์ชั้นที่ 4 หรือสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ มีความพิเศษ เพราะเป็นที่สถิตอยุ่ของพระโพธิสัตว์ก่อนที่จะจุติลงมาเกิดในโลกมนุษย์และได้บรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นอกจากนั้นสวรรค์ชั้นนี้ ยังเป็นที่อยู่ของบัณฑิต พระโพธิสัตว์ พุทธบิดา พุทธมารดา พระอัครสาวก เป็นต้น และอายุของเทวดาในสวรรค์ชั้นดุสิตนี้กำลังพอเหมาะพอดี ไม่ยาวนานเกินไปจนกระทั่งเสียโอกาสในการจุติลงมาเกิดเป็นมนุษย์และได้สืบทอดการบำเพ็ญบุญบารมีต่อไปได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทำให้เสียเวลาอย่างเช่นเทวดาที่เกิดในสวรรค์ชั้นที่สูงขึ้นไปกว่านี้ ที่มีอายุทิพย์ยาวนานมากขึ้นๆ ตามชั้นลำดับของสวรรค์แต่ละชั้นนั่นเอง