pin up1 winaviator mostbetpinup casino1 winmostbet kzmosbet casinoaviatorlucky jet1 winpin up casino india1win slotlucky jet casinopinup az4r betmosbet indiamosbet aviatormostbet casino1win kz1 win4rabet indiapin-up kzmosbetmosbet1 win1win1win aviatorpin upparimatchlucky jet4rabetмостбет1win loginpin up 777mostbet1 вин авиаторpin uplucky jet1 winpin up4rabetpinupmosbet1 winmostbet azluckygetmostbetmosbetmostbet casino1wınparimatch

ธรรมะที่ทำให้งาม

เครดิตภาพดารา จาก : https://pantip.com/topic/33762127

อยากสวย-อยากหล่อ…? ขอแค่มี 2 อย่างนี้ เท่านั้น… !!!

ความสวยของผู้หญิง และความหล่อของผู้ชาย เป็นคุณสมบัติทางกายภาพที่ใครๆ ก็อยากมีเป็นสมบัติส่วนตัวด้วยกันทั้งนั้น เพราะนอกจากจะทำให้เป็นที่สนอกสนใจของเพศตรงข้ามแล้ว ยังเป็นที่เจริญหูเจริญตา เป็นที่นิยมชมชอบของผู้พบเห็นโดยทั่วไป

ด้วยเหตุนี้เอง จึงเกิดมีอาชีพนายแบบ อาชีพนางแบบ อาชีพดารานักแสดง นักร้อง นางโชว์ นายโชว์ หรือพรีเซ็นเตอร์โฆษณาต่างๆ ปรากฏในช่องทีวีและสื่อต่างๆ ให้เราได้เห็นอยู่ในทุกเมื่อเชื่อวัน

ซึ่งก็เป็นที่ถูกอกถูกใจและได้รับความนิยมชมชอบจากคนส่วนใหญ่ ซึ่งอาชีพที่ใช้ความสวย ความหล่อ ความสุภาพงดงาม ความสมาร์ท เป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำงานเหล่านี้ ก็สามารถสร้างชื่อเสียงเกียรติยศเงินทองและทรัพย์สินมาให้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น และสามารถต่อยอดชื่อเสียงเกียรติยศ เงินทอง และทรัพย์สินต่างๆ กรุยทางไปสู่ความเป็นซูเปอร์สตาร์ซึ่งเป็นที่นิยมตลอดกาลอย่างเช่นดารานักร้องหลายๆ คนก็สามารถทำได้

ผู้หญิงที่มีรูปร่างดี ลักษณะดี ทรวดทรงสมส่วน ผิวพรรณวรรณะดี มีความสง่า มองดูอวบอิ่มเต่งตึง สูงโปร่ง หน้าตาสดสวย คิ้วโก่งเป็นคันศร มีสายตาหวานหยดย้อย หรือแลดูบ้องแบ๊ว มีประกายแววตาที่สดใสเหมือนตาของลูกวัวแรกคลอด สุขภาพผมดีมีน้ำหนักเป็นมันขลับ จมูกโด่งแลเห็นเป็นคมสัน ประกอบกับมีริมฝีปากที่อวบอิ่ม มีมุมปากและลักยิ้มแลดูจิ้มลิ้มน่าพิสมัย เป็นต้น หากผู้หญิงคนใดมีคุณสมบัติรูปร่างหน้าตาประมาณนี้ ก็จัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่มีความสวยงาม

ส่วนผู้ชายที่มีรูปร่างลักษณะสูงโปร่ง ไม่อ้วนเกินไป ไม่ผอมเกินไป มีลักษณะที่ดี ทรวดทรงรูปร่างโดยรวมสมส่วน หน้าท้องแบนราบ มีกล้ามเนื้อเล็กน้อย ผิวพรรณวรรณะดี มีความสง่างามทั้งรูปร่างและท่าทางการย่างเยื้องกราย เข้าหลักที่ว่า “สูงชะลูด ตูดปอด ยอดขุนพล” คิ้วหนาได้รูปทรง ตาหวาน ตาคม แต่แฝงไว้ด้วยความเข้มแข็งและแข็งแรง มีแววตาที่สดใสเปล่งประกายออกมา มีจมูกโด่งเป็นคมเป็นสันออกมาอย่างชัดเจน ริมฝีปากที่อวบอื้ม มุมปากที่ได้สัดส่วนเป็นรูปยิ้ม (ถึงแม้ไม่ยิ้มก็ดูเป็นเหมือนกำลังยิ้มอยู่) อีกทั้งมีขนอ่อนประดับตามส่วนต่างๆ ตามร่างกายขึ้นมาประดับความเป็นชายแต่พองาม เป็นต้น อย่างนี้ จัดว่าเป็นผู้ชายที่มีความหล่อเหลาเอาการ ในนิยามความหมายนี้

ความสวยงามและความหล่อของชายหญิงที่กล่าวไปแล้วข้างต้นนั้น เป็นความสวย ความหล่อ ความงดงามของอัตภาพร่างกายภายนอกเท่านั้น ไม่ใช่ความงามอย่างแท้จริงตามความหมายของคำสอนทางพระพุทธศาสนา

เพราะความงามภายนอกสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้เมื่อผ่านกาลเวลาไประยะหนึ่ง ความสวยงามและความหล่อนั้นก็ค่อยๆ สร่างซาหายไปทีละน้อยๆ จนกระทั่งไม่เหลือความสวยงามและความหล่อนั้นให้ได้หลงไหลได้ปลื้มกันอีกต่อไป

เข้าหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในเรื่องอนิจจัง-ความไม่เที่ยงแท้คงทนถาวร ปรับเปลี่ยน เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลทำให้ความหล่อความสวยของคนเราไม่คงที่และแปรสภาพไปเป็นอื่น

ส่วนความงามที่คงที่คงทนถาวร ยากที่จะมีปัจจัยแห่งกาลเวลาหรือปัจจัยอื่นใดมากระทำให้เปลี่ยนแปลงไปได้เลยนั่นก็คือ “ความงามจากภายใน”

เมื่อพูดถึงความงามจากภายใน บางคนก็คิดว่าน่าจะหมายถึงความงามทางจิตใจ ที่แสดงออกมาผ่านพฤติกรรมต่างๆ เช่น ความเป็นคนโอบอ้อมอารี เป็นคนมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความเป็นคนจิตใจดี ความคิดดี ซึ่งก็มีส่วนถูกโดยมาก เพราะเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้คนเรานั้นมีความสวย มีความหล่อมาจากภายในจริงๆ

หากแต่ความสวยและความหล่อที่อยู่แค่เพียงภายในจิตใจเท่านั้น ก็ไม่สามารถที่จะปรากฏให้เห็นได้ในทันทีเมื่อแรกพบกันได้ เพราะกว่าจะรู้ได้ว่าคนๆ นั้นเป็นผู้ที่มีจิตใจดีงาม เป็นผู้ที่มีความงามจากภายในจริงๆ แล้วล่ะก็ จำเป็นเหลือเกินที่จะต้องใช้เวลาในการศึกษาดูใจกัน ศึกษาพฤติกรรมกันไประยะหนึ่ง ซึ่งอาจจะใช้เวลาเร็วหรือช้านานแค่ไหนเพียงไรก็แล้วแต่กรณีไป

ดังนั้น กว่าจะได้เห็นความดี ความงามของจิตใจภายนของคนแต่ละคนได้ ก็อาจต้องใช้เวลาพอสมควร

แต่ถ้าหากกว่า เราอยากจะทราบว่าคนคนหนึ่งที่เพิ่งได้พบกันครั้งแรก หรือเรียกจะว่าบุคคลแรกพบนั้น เขาเป็นคนอย่างไรได้ในฉับพลันทันทีที่พบกัน ซึ่งไม่ว่าคนคนนั้นจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรก็ตาม แต่เราก็สามารถสังเกตดูพฤติกรรมที่คนๆ นั้นแสดงออกมาผ่านทางพฤติกรรม คำพูด และอากัปกิริยาต่างๆ ฉายแววแห่งความสวย-ความหล่อของเขาและเธอเหล่านั้นออกมาให้เห็น

จนเกิดเป็นความประทับใจ น่ารัก น่าสนใจ น่าติดตาม น่าหลงไหล น่าคบหา และรู้สึกนิยมชมชอบในตัวเขาได้ในทันทีก็ด้วยการเฝ้าระวังสังเกตพฤติการณ์ 2 อย่างนี้ว่ามีอยู่ในตัวเขาและเธอคนนั้นหรือเปล่า ซึ่งพฤติการณ์ 2 อย่างที่ว่านั้น ได้แก่

1. ขันติ – ความอดทน ให้คอยสังเกตดูว่า เขาเป็นคนมีน้ำอดน้ำทนหรือไม่ ไม่ว่าจะอดทนต่อความลำบากตรากตรำ อดทนต่อความทุกข์เดือดร้อน อดทนต่อความเจ็บใจ อดทนต่ออารมณ์หรือสิ่งที่มากระทบจิตใจ อดทนต่อคำพูดในเชิงลบหรือถ้อยคำสบประมาท ประชดประชันหรือถ้วยคำหยาบคาย อดทนต่อความร้อน ความหนาว สภาพภูมิอากาศ ภูมิประเทศ เรียกได้ว่า เป็นผู้มีความอดทนได้ทั้งทางด้านร่างกายจิตใจ หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้มีความพร้อมทั้งทางด้านสมรรถภาพร่างกายและสมรรถนะทางจิตใจ

คนผู้มีลักษณะของความอดทนดังที่กล่าวมานี้ จะทำให้บุคลิกภาพของคนๆ นั้น มีความหนักแน่น มั่นคง ดึงดูด เรียกศรัทธาและการยอมรับจากคนอื่นได้ สามารถอดทนต่อแรงกดดันต่างๆ ได้ดีกว่าคนอื่นๆ มีขีดความสามารถในการอดทนได้มากกว่าคนๆ อื่น ความอดทนนี้จึงเป็นคุณสมบัติข้อแรกของผู้ที่มีความสง่างดงามในความหมายนี้

2. โสรัจจะ – ความเสงี่ยม คือ มีความสงบเสงี่ยม สำรวมกริยาท่าทาง วางตนได้เหมาะสมกับบุคคล สังคม ชุมชน เวลา และสถานที่ รู้ว่าจะต้องวางตัวอย่างไร เมื่อต้องพบกับบุคคลระดับนี้ บุคคลประเภทนี้ เตรียมการรับมือไว้ได้อย่างดี ปรับตัวให้เข้ากับบุคคลอื่น หรือมีวิธีการรับมือกับบุคคลอื่นได้อย่างดี รู้ว่าสังคมหรือสมาคมแห่งนี้มีหลักนิยม หลักปฏิบัติ ธรรมเนียมการปฏิบัติ หรือวัฒนธรรมองค์กรอย่างไร ก็ปรับตัวให้เข้ากับสังคมและชุมชนนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี

การที่รู้ว่าเวลานี้ควรทำ เวลานี้ควรพูด เวลานี้ควรแสดง เวลานี้ควรเข้าหา ในเวลานี้ควรปรึกษา หรือในเวลานี้ควรงด ควรเว้น ควรว่าง ควรปล่อย ควรวาง ควรหยุด ก็สามารถใช้ไหวพริบปฏิภาณของตนเองให้เหมาะสมกับเวลา สถานการณ์และความเหมาะสมของช่วงเวลานั้นๆ รวมทั้งสามารถปรับตัวให้เหมาะสมกับสถานที่ในแต่ละแห่งได้อย่างเหมาะสมลงตัว

เมื่อทำได้อย่างนี้แล้วก็จัดว่า เป็นผู้มีโสรัจจะ กล่าวคือความเสงี่ยมในความหมายแรก สำหรับความหมายของโสรัจจะอีกหนึ่งความหมายที่จะกล่าวต่อไปก็คือ เป็นผู้วางตัวได้สง่า วางตัวได้งดงาม วางตัวได้เหมาะสม วางตนมีภูมิฐาน เป็นที่น่าเชื่อมั่น น่าเชื่อถือ น่าเคารพ น่าเลื่อมใส น่าศรัทธา

ในข้อนี้มีตัวอย่างให้เห็นได้อย่างชัดเจนคือ การวางตัวของพระเถระผู้ใหญ่ในที่สาธารณะ การวางตัวขององค์พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ขณะเสด็จออกมหาสมาคม หรือทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในโอกาสต่างๆ หรือการวางตัวของผู้บริหาร ผู้นำในหน่วยงานและองค์กรต่างๆ รวมไปถึงการวางตัว การแสดงออกทางบุคลิกภาพของโฆษก พิธีกร ผู้ประกาศ นักประชาสัมพันธ์ นักพูด นักบรรยาย นักวิชาการต่างๆ ที่ต้องมีบุคลิกภาพ ลักษณะท่าทางที่สุภาพเรียบร้อย นำมาซึ่งความน่าเชื่อถือและการยอมรับ

คนประเภทนี้ก็จัดว่าเป็นคนที่สง่างาม สามารถวางตัวได้เหมาะสมกับเวลา สถานที่ ชุมชน และสังคม เรียกได้ว่า เมื่อคนเราประกอบด้วยคุณสมบัติจรรยาที่เพียบพร้อมไปด้วยความสงบเสงี่ยม สำรวมระวัง มีแบบแผนที่เป็นระบบระเบียบเรียบร้อยแล้ว ก็นับว่ามีคุณสมบัติแห่งความสง่างาม กลายเป็นคนสวย-คนหล่ออย่างแท้จริงในความหมายนี้

ผู้ใดก็ตามที่มีบุคลิกภาพ ลักษณะท่าทาง และการแสดงออกที่ประกอบด้วยคุณธรรม 2 อย่างนี้ คือ 1) ขันติความอดทน และ 2) โสรัจจะความเสงี่ยม รวมกันเข้าแล้ว ไม่ว่าชาติกำเนิดเกิดมาจะมีรูปร่างลักษณะ ทรวดทรง หน้าตาและผิวพรรณอย่างไรก็ตาม ก็นับว่าเป็นผู้ที่มีความสง่างดงาม เป็นมหาเสน่ห์ดึงดูดผู้คนให้มาสนใจและนิยมชมชอบ นำความสำเร็จ ชื่อเสียงเกียรติยศ และทรัพย์สินเงินทองมาให้ได้อย่างแน่นอน

“แพรว…ด้วยความรู้ – พราว…ด้วยประสบการณ์”