pin up1 winaviator mostbetpinup casino1 winmostbet kzmosbet casinoaviatorlucky jet1 winpin up casino india1win slotlucky jet casinopinup az4r betmosbet indiamosbet aviatormostbet casino1win kz1 win4rabet indiapin-up kzmosbetmosbet1 win1win1win aviatorpin upparimatchlucky jet4rabetмостбет1win loginpin up 777mostbet1 вин авиаторpin uplucky jet1 winpin up4rabetpinupmosbet1 winmostbet azluckygetmostbetmosbetmostbet casino1wınparimatch

ชวนชื่นชม… “พระปฐมเจดีย์”

องค์ “พระปฐมเจดีย์” เจดียสถานอันเก่าแก่ เป็นโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานเคียงคู่กับดินแดนสุวรรณภูมิ มีความยิ่งใหญ่อลังการ ตั้งตระหง่านอยู่อย่างโดดเด่น มองเห็นได้เด่นชัดจากระยะไกลหลายกิโลเมตร

“พระปฐมเจดีย์” ตั้งตระหง่านท้าทายแดดลมฝนตลอดกาลเวลาอันยาวนาน ณ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร ถือเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ หรือเอก อุ. (เอกอุดม) เพราะนอกจากจะเป็นพระอารามหลวงแล้ว ยังอยู่ในฐานะของพระอารามหลวงชั้นเอก, นอกจากจะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกแล้ว ยังเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษซึ่งมีฐานะสูงสุดในบรรดาลำดับชั้นของพระอารามหลวงในประเทศไทย ซึ่งมีอยู่เพียง 6 วัดเท่านั้น และที่พิเศษยิ่งไปกว่านั้นก็คือ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ ซึ่งอยู่นอกกรุงเทพมหานคร หรืออยู่ในส่วนภูมิภาค ซึ่งไม่ใช่ว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เลย

ตัวผู้เขียนเองเคยมีโอกาสได้เห็นองค์ประปฐมเจดีย์ในระยะไกลๆ เมื่อครั้งเดินทางไปจังหวัดกาญจนบุรีบ่อยครั้ง แต่ไม่เคยมีโอกาสได้เข้าไปชื่นชมความยิ่งใหญ่งดงาม ความอลังการและทรงคุณค่าขององค์พระปฐมเจดีย์ในระยะใกล้ๆ เลยสักที จะมีก็แต่ได้ชื่นชมในทีวี สื่อโซเชียลมีเดียและสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ผ่านหูผ่านตาบ้างก็เท่านั้น

จนกระทั่งมีโอกาสได้ส่งน้องคนหนึ่งไปสอบนายสิบตำรวจ สนามสอบตำรวจภูธรภาค 7 จังหวัดนครปฐม ออกเดินทางตั้งแต่ช่วงเช้าเวลาราวตีสี่เศษ จากกรุงเทพมหานครถึงจังหวัดนครปฐมใช้เวลาประมาณยังไม่ทันถึงชั่วโมงดีนัก เพราะช่วงเช้าตรู่ถนนโล่ง รถไม่ติด ทำให้ประหยัดเวลาในการเดินทางได้มาก

ถึงจังหวัดนครปฐมแล้ว ตั้งใจแวะเข้าไปกราบนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ให้รู้สึกเป็นบุญชีวิตสักครั้ง จึงเลี้ยวรถแวะเข้าไปภายในบริเวณวัด หาที่จอดภายในวัดได้แล้ว ก็ออกเดินทางชื่นชมความยิ่งใหญ่งดงามอลังการของวัดกันในทันที

ในช่วงเช้าๆ ตะวันยังไม่ทันโผล่พ้นขอบฟ้า เห็นพระภิกษุสามเณรออกเดินบิณฑบาตบริเวณตลาดหน้าวัดมากมายหลายสิบรูป ผู้คนพากันออกมาจับจ่ายใช้สอยซื้อของกินของใช้และของสำหรับทำบุญตักบาตรกันเป็นจำนวนมาก ได้เห็นบรรยากาศและได้รับกลิ่นไอของบุญกุศลอบอวลอยู่ทั่วบริเวณโดยรอบ ทำให้ตัวผมเองเกิดศรัทธาขึ้นมาอย่างแรงกล้า อยากซื้อของใส่บาตรบ้าง

ด้วยความเป็นนักบวชเก่า ที่ได้ผ่านการบวชเรียนมานานผ่านระยะเวลากว่า 22 ปี ก่อนจะลาพรตสึกออกมาหางานทำฉันฆราวาสญาติโยมดังเช่นปัจจุบัน ก็เลยทำให้มีแนวคิดอันบรรเจิดขึ้นมาในใจว่า “เราจะต้องซื้อของใส่บาตรที่ไม่ให้เหมือนใคร” จึงเลือกซื้อขนมเค้กกล่อง จำนวน 2 กล่อง คละกันหลากหลายรสชาติ, ส้ม 1 กิโล และข้าวเหนียวหมูปิ้ง สำหรับน้อมนำมาเป็นไทยธรรมของใส่บาตรในเช้านี้

หลังจากเลือกไทยธรรมของใส่บาตรได้ดั่งใจต้องการแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงเป็นลำดับต่อไปก็คือ เลือกพระภิกษุหรือสามเณรรูปที่เราจะใส่บาตรถวายท่าน

ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า มีพระภิกษุและสามเณรจำนวนมากเดินบิณฑบาตผ่านไปมาในตลาดหน้าวัดมากมายหลายรูปเลยทีเดียว จึงเกิดความคิดว่า จะเลือกใส่บาตรให้กับพระภิกษุหรือสามเณรรูปใดก็ได้ ที่ยังไม่ได้รับอาหารบิณฑบาตเลย หรือยังไม่มีคนใส่บาตรให้ท่านเลย ผมจะเลือกใส่บาตรให้กับพระภิกษุหรือสามเณรรูปนั้น

จนกระทั่งได้มาเจอกับพระภิกษุรูปหนึ่ง ท่านเดินมาบาตรเปล่า ย่ามเปล่า ยังไม่มีใครใส่บาตรให้ท่านเลย ผมก็เลยเดินเข้าไปนิมนต์ให้ท่านหยุด พอท่านหยุดแล้วผมก็นำของที่เตรียมใส่บาตรทั้งหมดใส่บาตรให้ท่านพร้อมด้วยปัจจัยจำนวนหนึ่ง

ใส่บาตรเสร็จสรรพแล้ว ผมโน้มตัวลงรับพร พระท่านให้พรเป็นภาษาบาลีจบแล้วก็ให้พรเป็นภาษาไทยต่ออีกยืดยาวพอสมควร ล้วนแล้วแต่เป็นพรที่เลิศ พรที่ประเสริฐ และมีความหมายในทางอำนวยอวยพรให้เจริญรุ่งเรืองในชีวิต หน้าที่การงานและการเงินทั้งนั้น นับว่าเป็นมงคลกับชีวิตจริงๆ

หลังจากทำบุญใส่บาตรอิ่มบุญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ ความงดงามขององค์พระปฐมเจดีย์โดยเริ่มต้นที่บริเวณหน้าองค์พระปฐมเจดีย์ที่ตั้งตระหง่าน อวดโฉมความยิ่งใหญ่และงดงามแก่ผู้คนที่แวะเวียนมาสักการะและเยียมชม

ก่อนอื่น ผมแวะถ่ายภาพบริเวณด้านหน้าองค์พระปฐมเจดีย์ เก็บภาพบรรยากาศผู้คน ถนน ต้นไม้ และอื่นๆ บริเวณลานถนนด้านหน้าองค์พระปฐมเจดีย์

จากนั้นก็เริ่มเก็บภาพบรรยากาศบริเวณบันไดทางขึ้นองค์พระปฐมเจดีย์ด้านที่ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปปางประทับยืนองค์ใหญ่นามว่า “พระร่วงโรจนฤทธิ์” เพื่อความเป็นสิริมงคลที่มีบุญได้มาทัศนาการ

จากนั้น ผมจึงเดินเข้าไปทางประตูรูปวงรีของพระระเบียงคดที่ถูกสร้างขึ้นเป็นรูปวงกลมล้อมรอบองค์พระปฐมเจดีย์ โดยมีพระวิหารทิศประกอบอยู่ทั้ง 4 ด้าน

หลังจากผ่านประตูรูปวงรีของพระระเบียงคดเข้าไปถึงบริเวณฐานเจดีย์แล้ว รู้สึกได้ราวกับว่ากำลังทะลุผ่านเข้ามาอีกมิติหนึ่ง มองเห็นเสาพาไลของพระระเบียงคดตั้งประดับเรียงรายเป็นรูปโค้งอย่างสวยงามเป็นระเบียบ ชมความงดงามของลวดลายปิดทองลายฉลุลงบนพื้นสีเขียวของบานประตู บานหน้าต่าง และขื่อคานของพระระเบียงคต ที่รังสรรค์ออกมาเป็นลวดลายและรูปร่างต่างๆ ได้อย่างสวยงามและแฝงไปด้วยความหมายในเชิงชั้นงานศิลปะ

สังเกตดูดีๆ ก็จะเห็นว่า มีอักษรขอมจารึกอยู่ประปราย ให้ความหมายไปในทางคาถาหรือคำสอนในทางพระพุทธศาสนาภาษาบาลีที่ถูกจดจารจารึกเป็นอักษรขอม

เมื่อเพ่งมองไปยังองค์พระปฐมเจดีย์ในระยะประชิด ก็ทำให้รู้สึกได้ว่า ตัวผมเองนั้นช่างเล็กกระจิ๊ดริดกระจ้อยร่อยเหลือเกิน เมื่อเทียบกับความใหญ่โตมโหฬารขององค์พระปฐมเจดีย์ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า

ผมเดินชมความยิ่งใหญ่และความงดงามไปรอบๆ องค์พระปฐมเจดีย์ ในระหว่างนี้ก็ได้เก็บภาพกระถางอ่างบัว ซึ่งมีดอกบัวชูช่อดอกใบอวดโฉมให้ชมกันสลับกับพันธ์ุไม้ดัดและไม้กระถางที่ปลูกประดับบริเวณโดยรอบฐานองค์พระปฐมเจดีย์

เดินเก็บภาพบรรยากาศไปได้สักพัก ก็มาสะดุดกับภาพวาดเทพชุมนุมที่เขียนไว้บนผนังของพระวิหารทิศหลังหนึ่ง ทั้งภาพของทวยเทพ ท้าวจตุโลกบาล และภาพนางฟ้านางสวรรค์ก็ถูกเขียนขึ้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ คือเขียนภาพโดยอิงลักษณะทางกายวิภาคของมนุษย์จริงๆ แทนที่การเขียนภาพแบบสองมิติอย่างจิตรกรรมไทยดั้งเดิม อีกทั้งมีการเขียนเครื่องประดับของเทวดานางฟ้าต่างๆ เป็นแบบคนขอมโบราณ รวมไปถึงการเขียนลวดลายซุ้มหรือวิมานต่างๆ ก็เขียนเป็นแบบศิลปะของโบราณด้วย สันนิษฐานเอาเองว่าฝีมือการเขียนภาพคล้ายๆ กับงานเขียนของนายช่างใหญ่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ – สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์

ผมเดินเวียนขวาเป็นประทักษิณรอบองค์พระปฐมเจดีย์ครบ 1 รอบใหญ่ แล้วได้ออกมาทางประตูพระระเบียงคดอีกด้านหนึ่ง ผ่านประตูแห่งมิติรูปวงรีออกมาภายนอกอีกครั้ง มองเห็นหมู่พระเจดีย์ตั้งเรียงรายอยู่

ถัดลงไปจากที่ที่ยืนอยู่ มองเห็นสถาปัตยกรรมอาคารหลังหนึ่ง รูปทรงงดงามน่าแปลกตา แตกต่างไปจากอาคารอื่นๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน เดินลงบันไดไปอีกเพียงไม่กี่ขั้น ก็มาหยุดยืนมองดูความงดงามของตัวอาคารหลังนี้ในระยะประชิด

มีผู้คนยืนเรียงรายร่ายรำอยู่รอบตัวอาคารหลังนี้อยู่หลายสิบคน ผู้คนทั้งชาย-หญิงต่างก็มีสีหน้ายิ้มแย้ม ใบหน้าล้วนแปดเปื้อนไปด้วยริ้้วรอยแห่งความสุข

ผมพิจารณาดูตัวอาคารอย่างพิเคราะห์ตั้งใจ จึงได้ทราบว่า อาคารหลังนี้คือ “พระอุโบสถ” ของวัด เป็นอาคารหลังไม่ใหญ่ไม่โตเท่าใดนัก แต่มีเอกลักษณ์โดดเด่นทรงคุณค่าความงามตามแบบสถาปัตยกรรมของนายช่างใหญ่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ – สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ อีกเช่นกัน

เมื่อพิจารณาดูรายละเอียดภายนอกของอาคารพระอุโบสถแล้ว จุดที่น่าสนใจที่สุด เห็นจะเป็นจุดที่ประดิษฐานใบเสมาพระอุโบสถ เพราะใบเสมาพระอุโบสถทั้ง 8 ทิศ ถูกกำหนดให้มีตำแหน่งการตั้งประดิษฐานที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะ ดังนี้

1. ด้านหน้าพระอุโบสถ ตำแหน่งที่ประดิษฐานใบเสมาพระอุโบสถอยู่บนหน้าบันพระอุโบสถเหนือทับหลังพระอุโบสถขึ้นไป

2. ด้านหลังพระอุโบสถ ตำแหน่งที่ประดิษฐานใบเสมาพระอุโบสถอยู่บนหน้าบันพระอุโบสถเหนือทับหลังพระอุโบสถขึ้นไป

3. ด้านข้างทางซ้ายของพระอุโบสถ ตำแหน่งที่ประดิษฐานใบเสมาพระอุโบสถอยู่บนหน้าบันของหน้าต่างบานกลางของพระอุโบสถ

4. ด้านข้างทางขวาของพระอุโบสถ ตำแหน่งที่ประดิษฐานใบเสมาพระอุโบสถอยู่บนหน้าบันของหน้าต่างบานกลางของพระอุโบสถ

5. มีใบเสมาอีก 4 ใบ ประดิษฐานอยู่ที่ตำแหน่งตรงมุมด้านล่างของพระอุโบสถทั้ง 4 มุม

ใบเสมาแต่ละใบล้วนแล้วแต่สลักเสลาลวดลายวิจิตรตระการตาแปลกแตกต่างกันไป และมีความหมายและปริศนาธรรมรวมถึงกล่าวอธิบายถึงบุคลาธิษฐานที่แตกต่างกันออกไปด้วย

ตัวอาคารพระอุโบสถประกอบลวดลายพวงดอกไม้ห้อยย้อย และรูปสลักประจำยามกระกอบลายที่ได้สัดส่วน รูปทรง และอัตลักษณ์ที่ดูกลมกลืนและลงตัวที่สุด อย่างที่เรียกได้ว่า “น้อย แต่มาก” ตัวจริงเสียงจริง ก็ต้องมาดูกันให้เห็นกับตามที่พระอุโบสถวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหารแห่งนี้เท่านั้น

ผมเดินไปที่ประตูพระอุโบสถ เห็นพระสงฆ์นั่งอยู่ภายในหลายรูป รวมถึงมีคณะศรัทธาสาธุชนมากมายหลายสิบคนนั่งอยู่ภายในพระอุโบสถ เหลือบไปเห็นชายโกนผมแต่งกายในชุดนาค 2 คน กำลังเข้าพิธีอุปสมบทอยู่ ก็เลยทราบได้ทันทีว่ากำลังมีพิธีอุปสมบทอยู่ จึงไม่มีโอกาสเดินเข้าไปกราบพระประธานและเก็บภาพความงามภายในพระอุโบสถ ได้แต่เอากล้องโทรศัพท์มือถือพยายามบันทึกภาพทางช่องหน้าต่างพระอุโบสถแทน แต่ภาพที่ได้ไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก เพราะทัศนวิสัยไม่ดี พยายามกวาดสายตามองเข้าไปเหลือบดูพระประธานภายในพระอุโบสถ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปแบบศิลปะสมัยทวารวดีประทับนั่งห้อยพระบาท ซึ่งต้องบอกเลยว่าหาชมได้ยากมากจริงๆ และมีอยู่เพียงไม่กี่องค์ในประเทศไทย แต่ก็มองไม่ค่อยถนัดตาเท่าใดนัก

ผมเดินชมความอัศจรรย์ และความงามไปรอบๆ อาคารพระอุโบสถจนครบ 1 รอบแล้ว ก็เดินลงลอดผ่านช่องซุ้มประตูไป โผล่หน้าอีกทีก็มาอยู่ที่บริเวณถนนด้านหน้าองค์พระปฐมเจดีย์อีกครั้ง คราวนี้ผมมีโอกาสได้บันทึกภาพสวยๆ และทรงคุณค่าควรจดจำไว้เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตอีกมากมายหลายสิบภาพ

หลังจากที่เก็บภาพความงามขององค์พระปฐมเจดีย์ รวมถึงองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมอื่นๆ โดยรอบองค์พระปฐมเจดีย์จนเป็นที่พอใจแล้ว ผมจึงเดินลัดเลาะตามถนนซึ่งทอดขนานไปกับกำแพงแก้วขององค์พระปฐมเจดีย์เพื่อไปหาอะไรทานรองท้องเสียหน่อย หลังจากเดินเก็บภาพและชื่นชมบรรยากาศขององค์พระปฐมเจดีย์อย่างจุใจแล้ว

ร้านค้าภายในบริเวณวัดมีอยู่หลายร้าน แต่ผมเลือกไปแวะทานที่ร้านข้าวแกง-ขนมจีน เจ๊ตา ร้านเจ้าประจำองค์พระฯ (หมายถึง “องค์พระปฐมเจดีย์”) เห็นมีอาหารหลากหลายอย่างให้เลือกซื้อหามาทน ผมเห็นแกงพะแนงหมู หน้าตาหน้ากิน ก็เลยสั่งพะแนงหมูราดข้าว กลัวไม่อิ่ม สั่งเพิ่มไข่ดาวอีกฟอง น้ำเย็นๆ อีกขวด กินอิ่มแปล้แล้วก็ออกเดินทางไปทำธุระ พาน้องไปสอบนายสิบตำรวจ สนามสอบตำรวจภูธรภาค 7 จังหวัดนครปฐม ณ โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัยเป็นสถานีต่อไป

การได้มากราบนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ของผมในวันนี้ นับเป็นครั้งแรกในชีวิตของผม นำมาซึ่งความรู้สึกตกตะลึงในความยิ่งใหญ่และงดงาม ความอบอุ่นและความประทับใจให้กับผมอย่างไม่รู้ลืม หากมีเวลาว่างหรือมีโอกาสได้แวะไปที่จังหวัดนครปฐม ก็คงไม่พลาดที่จะได้ไปกราบนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์อีกครั้งอย่างแน่นอน….

ใส่ความเห็น